วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ธเนศ ลีลาภรณ์ อวยพรปีใหม่ 2015

ทอม ธเนศ ลีลาภรณ์ ได้โพสอวยพรปีใหม่ 2015

.....

สวัสดีปี 2558 และ บอกลาปี 2557

สิ่งที่หลายคนอาจทำคือ ตั้งใจ ตั้งเป้าหมายว่า
ปี2558 เราจะทำอะไร? เราตั้งเป้าหมายอะไร?
ถ้าถามผมว่าดีไหม ผมตอบเลยว่าดีมากๆ ดีแน่นอน
แต่เคยถามตัวเองไหม ว่าเราตั้งใจแบบนี้มากี่ปีแล้ว?
แล้วทำไมปีนี้เรายังคงตั้งเป้าหมายเดิมของปีที่แล้วหล่ะ?
แสดงว่าการตั้งเป้าหมายเพียงอย่างเดียว อาจยังไม่ใช่
แล้วต้องทำอะไรด้วย อาจเป็นคำถามที่หลายๆคน ถามต่อ
ผมมีอะไรแนะนำเล็กๆ เป็นของขวัญปีใหม่ครับ

7 ขั้นตอนที่ควรทำหลังการตั้งเป้าหมาย

สร้างแผนงานใหม่ขึ้นมา
1. ทบทวนเป้าหมาย และสิ่งที่เคยทำเพื่อบรรลุเป้าหมาย
2. หาปัญหาหรือจุดผิดพลาด ที่ทำให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย
3. แยกเป็น "อะไรที่ควรทำเพิ่ม" และ "อะไรที่ไม่ควรทำ" เพื่อบรรลุเป้าหมาย

สร้างตัวตนใหม่ขึ้นมา
4. หาวิธีการที่จะทำให้สามารถทำสิ่งที่ควรทำ ได้ดีขึ้น อาทิ การพัฒนาตัวเอง การมีที่ปรึกษา
5. หาวิธีการ ที่จะทำให้เราไม่ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ อาทิ การฝึกหักห้ามใจ การประกาศเป้าหมาย การมีที่ปรึกษา

ทำเป้าหมายเดิมด้วยแผนงานและตัวตนใหม่
6. ใส่แรงและความเชื่อมั่นเต็ม 100% หรือมากกว่าครั้งก่อน อย่าให้อดีตเป็น "ห้องขัง" ที่ไม่สำเร็จ แต่ใช้เป้น "ห้องเรียน" ให้เรียนรู้และทำเต็มที่กว่าเดิม
7. เป้าหมายใหญ่สำเร็จจากการทำเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวัน

หากตั้งเป้าหมาย และทำแบบนี้ไม่มีทางที่ปีหน้า จะไม่ดีกว่าปีนี้แน่นอนครับ คุณจะใกล้เป้าหมายขึ้นเรื่อยๆ ขอเป็นกำลังใจให้คนตั้งเป้าหมายทุกๆคนครับ



วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

ธเนศ ลีลาภรณ์ กับงานเปิดตัวหนังสือของตัวเองเล่มแรก

ผมมีโอกาสได้ไปงานเปิดตัวหนังสือ "รู้ก่อนตอนนี้ ดีกว่ารู้งี้ตอนหลัง" เพื่อแสดงความยินดีกับเพื่อนเก่า ตั้งแต่ครั้งสมัยมัธยมต้น ธเนศ ลีลาภรณ์ ซึ่งในบรรดาเพื่อนที่เรียนด้วยกันมา ทอม (ธเนศ ลีลาภรณ์) จะเป็นคนที่มีแนวคิด และวิธีคิดที่น่าสนใจที่สุด

ผมก็เคยไปงานเปิดตัวหนังสือมาบ้าง แต่ยังไม่เคยเปิดไปงานเปิดตัวหนังสือ ที่จัดในโรงภาพยนตร์มาก่อน งานเปิดตัวหนังสือเล่มนี้ จัดขึ้นที่โรงภาพยนตร์ของสยามพารากอน

ธเนศ ลีลาภรณ์ เปิดตัวหนังสือ
บรรยากาศในงาน
หลายๆเรื่องที่ทอม (ธเนศ ลีลาภรณ์) ถ่ายทอดให้กับผู้ฟังในงานนี้ ก็เป็นเรื่องที่หลายๆคน หรือแม้แต่ผมเอง ก็ไม่เคยรู้มาก่อน ทอมเล่าเรื่องราวตั้งแต่วันแรกที่เจอพี่บอย (วิสูตร แสงอรุณเลิศ) แล้วพี่บอย ได้ทาบทามให้ทอมเขียนหนังสือ จนถึงวันที่ทอม ต้องส่งต้นฉบับให้กับพี่บอย ความเครียด ความกดดัน รวมถึงความตั้งใจสุดๆ ที่จะเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมา เป็นอย่างไร ลองฟังจากคลิปเสียง ที่ผมบันทึกมาจากในงานนะครับ



วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

ธเนศ แถลงเรื่องย้ายค่าย ไม่ได้ถูก Terminate

เมื่อปลายปีที่แล้ว ธเนศ ลีลาภรณ์ (ทอม) ได้ไปยื่นใบลาออก จาก บริษัท เอมสตาร์ (Aim Star) และได้เขียนชี้แจงไว้ใน Facebook ของตัวเองไว้ดังนี้...

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา ผมและคุณนุ๊ก (ธนะสิทธิ์ พรสิริกุลนันท์) ได้ไปลาออกจากบริษัทแล้วครับ พวกเราทั้ง 2 คนไม่ได้ถูก Terminate อย่างที่ใครบางคนเข้าใจผิดไป หลักฐานคือชื่อของผมยังเป็นตัวสีฟ้าอยู่ในวันที่ผมเขียนใบลาออก (ยอดธุรกิจก็ยังเยอะอยู่) ซึ่งหากถูก Terminate ต้องเป็นตัวสีดำไปแล้ว
ผมยื่นใบลาออกอย่างตรงไปตรงมาและได้แนบจดหมายขอบคุณทางบริษัทตลอดช่วงเวลา 7 ปีที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ผมยังไม่ได้สมัครเป็นนักธุรกิจ “อิสระ” กับบริษัทใดๆ ดังนั้นผมคงยังไม่ได้ทำผิดจรรยาบรรณจนต้องถูก Terminate แต่เนื่องด้วย ผมเองได้ตัดสินใจกำลังจะเริ่มต้นธุรกิจใหม่ในเร็วๆ นี้แล้ว
ธเนศ-ธนะสิทธิ์ ลาออกจากเอมสตาร์
ภาพวันยื่นใบลาออกจากบริษัท เอมสตาร์ (Aim Star Network)

ผมจึงลาออกจากบริษัทเดิมเพื่อให้เกิดความถูกต้อง สาเหตุที่ผมลาออกเพราะ “อะไรบางอย่าง” ซึ่งผมเองคงไม่ได้จะมาชี้แจงเรื่องนี้ใน Post นี้ เพราะมันอาจเสียมารยาท ผมบอก “อะไรบางอย่าง” เฉพาะคนในทีมผมที่เชื่อใจในตัวผมและคุณนุ๊กเท่านั้น คนอื่นที่เป็น SL ในบริษัท ผมไม่ได้ชวนและบอกใคร หากวันนี้เขารู้แสดงว่าเขาพยายามมาถามผมเอง เพราะอาจไม่เชื่อเรื่องที่หลายๆคนไปพูดกันต่อ ซึ่งผมเองไม่มีเจตนาที่จะชวนคนอื่นๆ นอกจากทีมของตัวเองเลย
ผมอยากไปทำเฉพาะทีมตัวเองที่เราก่อตั้งมา 7 ปี แต่… ก็มีใครหลายๆคนออกมากล่าวหาพวกเราว่า…ผมได้ยินมาว่า มีใครบางคนบอกว่า บริษัทใหม่ที่ผมจะไปทำนั้น ไม่มีความพร้อมไม่มีความมั่นคงเลย เผลอๆเจ้าของบริษัทมีเงินน้อยกว่าคุณนุ๊กอีก แต่เชื่อไหมคนๆ เดียวกันกลับบอกว่าที่คุณนุ๊กกับผมกำลังไปทำที่นั้น เพราะถูกซื้อตัวไป ผมเลย งง ในตรรกะที่เขาคิดมากเลยว่า คิดได้งัย มาบอกว่าบริษัทไม่มีเงิน แต่ซื้อตัวคุณนุ๊กไป แล้วเขาจะเอาเงินจากไหนมาซื้อตัวละ หากเขาไม่มีเงิน และคำถามที่สำคัญคือทำไมเขาถึงเลือกจะมาซื้อตัวคุณนุ๊กหรือผม Why ผม?
ทำไมเขาไม่ไปซื้อตัวคนที่พูดละครับหรือใครคนนั้นไม่มีค่าพอที่จะมีใครจะมาซื้อตัว!! อยากให้คนที่ฟังลองคิดจริงๆ ให้รอบคอบว่า ทำไมคุณนุ๊กหรือผมต้องยอมขายตัวด้วยละครับ ผมมีทีมงานที่เชื่อในตัวผมมากๆ ผมว่าเงินมากเท่าไหร่ก็ซื้อความเชื่อมั่นที่ทีมงานมีให้ไม่ได้หรอกครับ ดังนั้น เรื่องซื้อตัว มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยในความเป็นจริงผมได้ยินมาว่า มีใครบางคนบอกว่า ผมและคุณนุ๊กโลภมาก ได้ไม่รู้จักพอ เขาบอกว่าหากพวกเราย้ายองค์กรทั้งหมดไปที่ใหม่จะมีรายได้มากกว่าเดิมก็เลยย้ายไป ผมขอถามคนที่คิดและพูดแบบนั้นกลับว่าถ้าคุณคิดจะย้ายบริษัทหากคุณมีเหตุผลที่เห็นแก่ตัวเช่นนั้น คนของคุณจะเชื่อและตามไปทั้งหมดไหม? ซึ่งหากคุณรู้จักคุณนุ๊กดีพอ ผมว่าคุณนุ๊กเป็นคนไม่ฟุ่มเฟื่อยเลย เขาไม่มีทางอยากได้อะไรเพิ่มแน่นอน มีแต่คิดจะอยากให้ทีมงานได้รับเพิ่มหรือได้รับในสิ่งที่ควรได้รับเท่าเดิมไม่ใช่ลดลงผมได้ยินว่า มีใครบางคนบอกว่า ผมและคุณนุ๊กทะเลาะกับบริษัทเพราะไปเรียกร้องผลประโยชน์ให้ตัวเอง พอไม่ได้ก็เลยไม่พอใจชวนทีมตัวเองออกมา คนที่พูดและคิดแบบนี้นอกจากจะดูถูกผมและคุณนุ๊กแล้วยังไม่ให้เกียรติคนในทีมของผมและคุณนุ๊กด้วย
คุณคิดว่าพวกเขาไม่มีสมองหรือความคิดเป็นของตัวเองเลยเหรอครับ หากเรื่องที่เกิดขึ้นเขาไม่ได้คิดเอง เจอเอง ใครเขาจะเห็นด้วยกับเราทั้ง 2 คน ซึ่งหากผมและคุณนุ๊กห่วงผลประโยชน์ตัวเอง เราคงออกไปตั้งแต่ปี 52 แล้วคงไม่ใช่ตอนนี้การที่ผมออกมาชี้แจงเรื่องทั้งหมดนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะสร้างความร้าวฉานใดๆ แต่ผมอยากชี้แจงคนที่อาจเข้าใจผมหรือคุณนุ๊กผิดไป
ซึ่งจริงๆ แล้วคุณจะคิดกับผมยังงัยก็ช่าง ผมไม่ซีเรียสเพราะหากคุณเป็นคนที่เชื่อเรื่องราวทั้งหมดนั้น แสดงว่าคุณคงไม่ได้รู้จักกับผมดีพอ ผมจึงไม่จำเป็นต้องแคร์ความรู้สึกของคนๆนั้น แต่สำหรับใครที่กำลัง โจมตีคุณนุ๊ก ผมว่าหยุดพูดถึงเขาในทางไม่ดีเถอะ ผมรู้จักเขามา 7 ปี เขาเป็นคนที่มีแต่ช่วยเหลือคนอื่นมาตลอด เขาเป็นคนดี เขาไม่คิดอย่างที่ใครบางคนพูดแน่ๆ และอีกเหตุผลที่ผม Post ข้อความนี้เพราะ ผมอยากบอกใครที่กำลังเครียดมากๆ จนต้องแต่งเรื่องราวหรือแสดงความคิดเห็นโจมตีผมหรือคุณนุ๊กว่า “ให้สบายใจ”
โดยส่วนตัวผมเข้าใจว่าคงเครียด แต่ผมอยากบอกให้สบายใจครับว่า ผมจะพยายามบอกทีมของผมว่า อย่าไปชักชวนหรือบอกเรื่องราวใดๆ ที่เกิดขึ้นกับคนที่ยัง Active ในทีมของคนอื่นเลยครับ ผมอยากให้ทั้งคนที่อยู่และคนที่ออกมาประสบความสำเร็จด้วยกันหมด คนที่อยู่ผมเชื่อว่าอีกไม่นานต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นในบริษัทแน่นอน ดังนั้นขอให้เชื่อมั่นและลุยต่อไป เอาเวลาไปจัดทัพ Training วางระบบสื่อใหม่ๆ รองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นดีกว่า คุณยังมีทีมงานอีกมากที่ยังคงเชื่อมั่นในตัวคุณและบริษัท ดีกว่าเอาเวลาไปคิดเรื่องราวมากล่าวหาผมหรือคุณนุ๊กสุดท้ายขออวยพรให้ทุกๆคนโชคดี คนเราต่างมีวิถีทางของตัวเอง มีความคิดที่แตกต่างกัน มองต่างกัน ไม่มีใครถูกหรือผิดครับ เราควรเคารพความคิดเห็นของทุกๆคน
สำหรับคนที่ยังทำอยู่บริษัทเดิม สู้ต่อไปครับ อย่าพยายามไปถามเรื่องราวจาก SL ที่ย้ายออกไปเลยครับ เชื่อมั่นในทีมของคุณ ฟังไปก็ไม่เกิดประโยชน์ หากใครเป็นทีมของผมที่คิดจะไปชวนหรือทำให้ใครเสียความเชื่อมั่น หากคุณได้อ่าน Post นี้ อยากบอกว่า หยุดเถอะครับ อย่าไปชวนเลย ทุกคนก็มีองค์กรของตัวเอง เราไม่ควรไปชวนเขาครับ ชวนแต่คนของคุณเอง แต่คนของทีมอื่นๆ ก็ต้องอย่าพยายามไปถามเองด้วยนะครับส่วน คนที่อยู่บริษัทอื่นที่พยายามมาชวนผมไปทำบริษัทอื่น อยากบอกเลยครับว่า ขอบคุณในความหวังดี แต่อย่าพยายามเลยครับ

ขอบคุณเอมสตาร์
ขอบคุณบริษัท เอมสตาร์ (Aim Star Network)
ผมและคุณนุ๊กได้ตัดสินใจไปแล้ว คุณนุ๊กอยู่ไหนผมอยู่ที่นั่น เราเลือกกันมาดีแล้ว และข้อมูลที่คุณรู้เกี่ยวกับบริษัทที่เราจะไปทำ นั้นอยากบอกว่าเป็น “ของเก่า” ที่เราจะไปพัฒนาให้เป็น “ของใหม่” แล้วครับ ข้อมูลเดิมๆที่คุณรู้มันล้าสมัยไปแล้ว ติดต่อมาได้หากอยากร่วมงานกัน แต่จะร่วมงานกันได้หรือไม่คงต้องขอดูแนวทางการทำงานกัน เพราะผมอยากสร้าง “โลกเครือข่ายสีขาวจริงๆ”ปีหน้าเราจะร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับบริษัทที่เราเลือกแล้วให้ดีที่สุด อาจมีสะดุดหรือขุกขระบ้างแต่เราพร้อมจะ “ร่วมทุกร่วมสุข” ไปด้วยกัน ขอบคุณทุกคนในทีมผมที่เชื่อใจกัน สิ่งที่ผมจะตอบแทนให้กับทุกคนคือ “ระบบใหม่ของทีม” ที่จะพัฒนาอย่างที่โลกเครือข่ายไม่เคยมีมาก่อน เพื่อช่วยให้เกิดยอดธุรกิจ 1,000++ ล้านในปีหน้าและกว่า 200 ครอบครัวที่ตามมามีรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อเดือนครับ โชคดีมีมาเสมอ เมื่อเราเตรียมความพร้อมรับโชคดีที่จะมาเยือน...ธเนศ ลีลาภรณ์

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

ประวัติ ธเนศ ลีลาภรณ์

ธเนศ ลีลาภรณ์

ธเนศ ลีลาภรณ์ เกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2524 ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีพี่น้อง 4 คน จากเล็กจนโต ใช้ชีวิตอย่างเด็กไม่เอาไหน เรียนไม่ดี กีฬาไม่เด่น ไม่เน้นกิจกรรม ไม่กล้าแสดงออก อายุ 19 ปี เสียการพนันหมดตัวที่ออสเตรเลีย จึงได้มีโอกาส “คุยกับตัวเอง” จนกลับมาเป็นคนมีเป้าหมายในชีวิต

ธเนศ ลีลาภรณ์ จบการศึกษาปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะบริหารธุรกิจ เอกบริหารทรัพยากรมนุษย์ ในช่วงเวลานี้เอง เขามีโอกาสเรียนรู้แนวคิดชีวิต แนวคิดธุรกิจ จากการศึกษาเรื่องราวของคนสำเร็จ มีโอกาสได้อ่านหนังสือมากกว่า 100 เล่ม ฟังซีดีสอนธุรกิจกว่า 1,000 แผ่น และเข้าคอร์สอบรมต่างๆ ตลอด 5 ปี

อายุ 25 ปี ถูกไล่ออกจากบ้าน จากการที่ผิดใจกับคุณพ่อเรื่องธุรกิจ จนต้องออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยรายได้เดือนแรก 6,000 บาท และมีเงินเก็บติดตัวไม่ถึง 50,000 บาท

อายุ 26 ปี ก่อตั้งกลุ่ม Clover Group ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรธุรกิจ ที่เน้นการพัฒนาบุคลิกภาพ การกล้าแสดงออก การกล้าคิดนอกกรอบ ตลอดจนแนะนำให้มีแนวคิด ในการสร้างรายได้หลายๆช่องทาง

อายุ 28 ปี สามารถสร้างรายได้เกิน 1ล้านบาทต่อเดือน และเป็นผู้ก่อตั้งระบบ 745 ที่ช่วยให้คนในองค์กร มีรายได้มากกว่า 100,000 บาท กว่า 100 คน

อายุ 30 ปี สามารถสร้างยอดธุรกิจกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี

ปัจจุบัน ปี2557 อายุ32 ตัดสินใจเริ่มโปรเจ็คใหม่อีกครั้ง โดยคิดค้นระบบการทำงานใหม่ ร่วมกับคุณธนะสิทธิ์ ชื่อว่า S55 ซึ่งมีเป้าหมายอยากช่วยให้ผู้คน ในองค์กรธุรกิจ มีรายได้เกิน 1ล้านบาท ภายใต้การบริหารงาน ที่ยึดมั่นในคุณธรรม และจริยธรรมที่ดี


วันพุธที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557

ด.ช. ธเนศ ลีลาภรณ์

Clover Group


ผมยังจำภาพ ด.ช. ธเนศ ลีลาภรณ์ ในตอนเรียน มัธยมต้น ห้องเดียวกันได้ดี

ธเนศ หรือ ทอม ที่หลายๆคนรู้จัก สมัยที่เราเรียนมัธยมด้วยกัน จะเป็นคนเงียบๆ ไม่พูดไม่จา เรียกว่าไม่มีอะไรโดดเด่น ถ้าไปถามเพื่อนต่างห้อง ในตอนนั้นผมรับประกันได้ว่า ไม่มีใครรู้จัก ธเนศ

บ่อยครั้ง ที่ผมได้มีโอกาส ไปบ้านธเนศ เพราะเราชอบฟุตบอล เหมือนๆกัน ในแก๊งค์ ก็จะมีกันอยู่ 5-6 คน ไอเบียร์ ไอเหลิม ไอหยก ไออ้วก ไอโบ้ท ...แต่ละคนนี่ตัวแสบประจำห้องทั้งนั้น ในวันว่าง พวกเราก็ชอบที่จะไปสุมหัวเล่นเกม CM (Championship Manager) เกมวางแผนฟุตบอล ชื่อดังในยุคนั้น

นำโดยผม ซึ่งเป็นหัวหน้าห้อง...

ผมอยู่ห้องเดียวกับธเนศ จนจบ ม.ต้น จากนั้น ม.ปลาย ผมไปเรียนสายวิทย์ ธเนศมาเรียนสายศิลป์ เลยอยู่กันคนละห้อง แต่ก็ยังอยู่โรงเรียนเดียวกัน ก็ยังมีโอกาสได้เจอกันบ่อยๆ

จนกระทั่งมาแยกกันก็ตอนเข้ามหาวิทยาลัย เพราะ ธเนศ เรียนอยู่หาดใหญ่ (มอ.) ส่วนผม หลงแสงสีอยู่ใน กทม.

แต่ทราบข่าวจากเพื่อนๆว่า "ทอมมันเป็นเจ้ามือวงไพ่ อยู่ในหอมหาลัย" ฮ่าๆๆๆ (เรื่องนี้ ลองไปอ่านได้จากหนังสือ "รู้ก่อนตอนนี้ ดีกว่ารู้งี้ตอนหลัง" )
ธเนศ ลีลาภรณ์

ผมไม่เจอ ธเนศ ลีลาภรณ์ อีกเลยหลายปี จนกระทั่ง ปี 2551 นั่นทำให้ชีวิตผม เปลี่ยนไป...

เพื่อนผม : อ๋อ เดี๋ยวนี้ไอทอมมันไปทำขายตรง มันเที่ยวไปเดินขายเครื่องสำอางอยู่

นั่นคือ คำพูดของเพื่อนผมคนนึง ที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของทอม ให้ผมฟัง ก่อนหน้าที่ผมจะเจอตัวเป็นๆ ของทอมไม่กี่วัน

เชื่อไหมครับ...ผมโคตรกลัวเพื่อนมาชวนสมัครสมาชิก เพื่อไปเดินขายเครื่องสำอางเลย เพราะทัศนคติของผมตอนนั้น มันเป็นไปตามคำพูดของเพื่อน ที่เจอก่อนหน้านี้ไปแล้ว

แต่จากที่ไม่ได้เจอกันเลย เกือบ 10ปี มาเจอกันอีกครั้ง ความรู้สึกแรก ผมดูยังไง เค้าก็ไม่เหมือนคนที่เดินเร่ขายเครื่องสำอาง ด้วยวิธีการเคาะประตูตามบ้านเลย

ตรงกันข้าม...สิ่งที่ทอม อธิบายให้ผมฟัง มันคือ โมเดลการตลาดขนาดใหญ่ ที่สามารถตอบโจทย์ของชีวิต ที่เราต้องการได้ ถึงแม้ตอนนั้นผมยังไม่เชื่อ 100% แต่ที่แน่ๆ...ผมก็รู้แล้วว่า ทอมไม่ได้เดินเร่ขายเครื่องสำอาง อย่างที่เข้าใจ

วันนี้จาก เจ้ามือวงไพ่ เด็กที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเลย ธเนศ ลีลาภรณ์ คือมนุษย์เงินล้าน ที่ไม่ได้ทำงานประจำ

แต่ที่เหนือไปกว่านั้น ธเนศ ลีลาภรณ์ ยังส่งต่อความสำเร็จนี้ ให้กับผู้คนอีกมากมาย ในองค์กร

ผมไม่เคยทำงานประจำอีกเลย ตั้งแต่เจอทอม (ปี2551) จนปัจจุบันนี้ ผมก็ยังคงร่วมงานอยู่กับทอม เป้าหมายคือการส่งต่อความสำเร็จ ให้กับผู้คน ที่เข้ามารู้จักเรา

และนี่คือร้อยคำขอบคุณ ของผู้ที่ ธเนศ ลีลาภรณ์ ได้นำทางให้พวกเขาเหล่านี้ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ในธุรกิจที่หลายๆคน ก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าตัวเองจะทำได้
Clover Group

ปัจจุบัน ถึงแม้ทอม จะสร้างให้ผู้คนประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย ข่าวดีก็คือ ตอนนี้ทอมได้ตัดสินใจ เริ่มโปรเจ็คใหม่อีกครั้ง โดยคิดค้นระบบการทำงานใหม่ ที่ชื่อว่า S55 ซึ่งมีเป้าหมาย อยากช่วยให้ผู้คนในองค์กรธุรกิจมีรายได้เกิน 1ล้านบาท